สหรัฐอเมริกา
✿ นักท่องเที่ยวต้องสมัครวีซ่าแบบ B-1/B-2
✿ เช็คเว็บไซต์หน่วยงานด้านความปลอดภัยในการเดินทางของสหรัฐอเมริกาเพื่อตรวจสอบว่าสามารถนำอะไรเข้าประเทศได้บ้าง
✿ ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2022 ผู้โดยสารทางอากาศไม่ต้องแสดงผลรับรองการตรวจเชื้อโควิด-19 ที่มีผลเป็นลบหรือแสดงเอกสารการหายจากโควิด-19 ก่อนขึ้นเครื่องไปยังสหรัฐอเมริกา แต่ยังต้องมีต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีน
- จะต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส
อย่างน้อย 14 วัน
- ต้องสามารถแสดงหลักฐานยืนยันสถานะการฉีดวัคซีน
COVID-19 ก่อนขึ้นเครื่องบินเดินทาง
- ทั้งนี้วัคซีนที่อนุมัติ ได้แก่ Moderna,
AstraZeneca, Covishield, Pfizer/BioNTech, Johnson & Johnson, Sinopharm และ Sinovac
สวิตช์เซอร์แลนด์
สวิตเซอร์แลนด์ ประเทศที่ประกาศให้ท่องเที่ยวได้อย่างเป็นทางการ
และเป็นประเทศที่
ประกาศยกเลิกการสวมหน้ากากอนามัยแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่
26 มิถุนายน 2564 สำหรับการเดินทางเข้าประเทศนั้น
ผู้ที่จะสามารถเดินทางเข้าได้
✿ ไม่จำเป็นต้องแสดงเอกสารการได้รับวัคซีน
หรือ ผลตรวจโควิด เพื่อเดินทางเข้าสวิตเซอร์แลนด์
✿ เมื่อเดินทางถึงสวิตเซอร์แลนด์แล้ว
ไม่ต้องกักตัว
✿ ข้อควรระวังเกี่ยวกับการนำเข้ายารักษาโรคที่จะใช้บริโภคส่วนบุคคล
✿ ต้องมีวีซ่าเชงเก้น
ฝรั่งเศส
ฝรั่งเศส ประเทศที่เปิดให้นักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนครบแล้วเที่ยวได้
แต่จะยอมรับเฉพาะวัคซีนที่ได้รับอนุญาตจาก European Medicines Agency (EMA) แล้ว
ซึ่งจะมี Pfizer/BioNTech, AstraZeneca, Moderna, Johnson & Johnson และ Covishield
- ทุกวัคซีนจะต้องได้รับครบโดสก่อนเดินทางอย่างน้อย 14 วัน แต่สำหรับ Johnson & Johnson นั้นจะต้องได้รับมาแล้วอย่างน้อย 4 สัปดาห์
✿ ไม่บังคับให้สวมหน้ากากอีกต่อไป
✿ ไม่จำเป็นต้องแสดงเอกสารการได้รับวัคซีน
หรือ ผลตรวจโควิด
✿ ไม่ต้องกรอกเอกสาร sworn declaration ว่าไม่ติดเชื้อ COVID-19 และให้คำมั่นว่าจะทำantigen testหรือการตรวจทางชีววิทยาเมื่อมาถึงฝรั่งเศส
สหราชอาณาจักร
✿ ต้องสมัครStandard
Visitor visa ทางออนไลน์ก่อนที่คุณจะเดินทางไปสหราชอาณาจักร
✿ สามารถสมัครวีซ่าได้เร็วที่สุด
3 เดือนก่อนเดินทาง ราคา 100 ปอนด์ สามารถอยู่สูงสุดได้ 6 เดือน
✿ ไม่จำเป็นต้องกรอกแบบฟอร์ม
UK passenger locator form ก่อนเดินทาง
✿ ไม่จำเป็นต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทางหรือหลังเดินทางมาถึง
✿ ไม่จำเป็นต้องกักตัวเมื่อคุณมาถึง
เยอรมนี
✿ หลักฐานการฉีดวัคซีน
หลักฐานการพักฟื้น หรือหลักฐานการตรวจโควิดไม่จำเป็นอีกต่อไป
ยกเว้นว่าผู้เดินทางอาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภายในสิบวันก่อนเดินทางเข้าประเทศเยอรมนี
จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบพิเศษ
✿ ต้องมีวีซ่าเชงเก้น
จอร์เจีย
จอร์เจีย ได้ยกเลิกมาตรการป้องกันโควิดแล้วแต่ยังแนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยอยู่
เวียดนาม
✿ ไม่ต้องตรวจหาเชื้อโควิด-19 ก่อนเดินทางไปเวียดนามอีกต่อไป
✿ ไม่จำเป็นต้องแสดงหลักฐานสถานะการได้รับวัคซีนเพื่อเข้าประเทศเวียดนาม
✿ ข้อกำหนดการเข้าประเทศเวียดนามจะเหมือนกันสำหรับผู้เดินทางทุกคน โดยไม่คำนึงถึง
สถานะการฉีดวัคซีน COVID-19
✿ ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากแต่ยังคงสนับสนุนให้ผู้คนสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ
และอาจจำเป็นต้องใส่ในบางพื้นที่
มาเลเซีย
✿ ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยบนเที่ยวบินอีกต่อไป
✿ การสวมหน้ากากอนามัยในอาคารยังเป็นทางเลือกในมาเลเซีย
แต่ยังคงบังคับการสวมหน้ากากในระบบขนส่งสาธารณะ สถานพยาบาล และสำหรับผู้ป่วยโควิด-19
✿ ผู้เดินทางทุกคนได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศมาเลเซียโดยไม่คำนึงถึงสถานะการฉีดวัคซีน COVID-19
และไม่จำเป็นต้องทำการตรวจโควิด ก่อนออกเดินทางหรือเมื่อเดินทางมาถึง ไม่ต้องกักตัวเมื่อเดินทางมาถึง
สิงคโปร์
✿ การสวมหน้ากากเป็นทางเลือกในทุกสถานที่ ยกเว้นสถานพยาบาล บ้านพักคนชราและรถพยาบาล และการขนส่งสาธารณะ
✿ นักท่องเที่ยวทุกคนที่เข้าประเทศสิงคโปร์ไม่จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติการเข้าประเทศ
สำหรับผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนครบแล้ว ไม่ต้องตรวจโควิดก่อนออกเดินทางหรือเมื่อมาถึง และไม่มีการกักตัว แต่ต้องได้มีหลักฐานการฉีดวัคซีน
✿ สำหรับผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนไม่ครบ
ต้องทำ PCR test (ฉีดวัคซีนครบโดสตาม WHO
Emergency Use Listing Vaccines เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนเดินทางถึงประเทศสิงคโปร์) ก่อนออกเดินทางและเตรียมผลตรวจทีเป็นลบและเป็นภาษาอังกฤษ
แต่ว่าถ้าหากเคยตรวจเจอเชื้อโควิด-19 ระหว่าง 14 ถึง 90 วันก่อนวันที่จะเดินทางไปสิงคโปร์
ไม่จำเป็นต้องทำPCR test
กรีซ
✿ ผู้เดินทางไปกรีซไม่จำเป็นต้องกรอกแบบฟอร์ม Passenger Locator Form (PLF) อีกต่อไป
✿ ผู้เดินทางทุกคนไม่จำเป็นต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19หรือใบรับรองการรักษาจาก COVID-19 หรือหลักฐานของผลตรวจโควิดที่เป็นลบอีกต่อไป
✿ ยกเลิกมาตราการสวมการหน้ากากอนามัยในพื้นที่ในร่ม
แต่ยังต้องสวมหน้ากากในบางพื้นที่เช่นบนขนส่งสาธารณะ เรือสำราญ เรือยอร์ช
และเรือข้ามฟาก
ออสเตรเลีย
✿ ต้องตรวจสอบข้อกำหนดการกักตัวในรัฐหรือเขตแดนที่คุณจะเดินทางไป
เพราะแต่ละที่มีกฎที่ไม่เหมือนกัน แต่ส่วนมากกำหนดให้ผู้เดินทางทำการตรวงโควิต-19 ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากมาถึงออสเตรเลีย
✿ ไม่จำเป็นต้องแสดงหลักฐานผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ เพื่อให้เป็นไปตามข้อกำหนดการเดินทางของออสเตรเลีย แต่บางสายการบินอาจต้องการผลตรวจก่อนออกเดินทางเมื่อทำการเช็คอินก่อนที่คุณจะสามารถขึ้นเครื่องได้
✿ ไม่จำเป็นต้องแสดงหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19 เพื่อเดินทางไปและกลับจากออสเตรเลีย
เนปาล
✿ คุณต้องมีใบรับรองการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 เต็มรูปแบบ แต่หากคุณไม่ได้รับวัคซีนครบ
คุณต้องได้รับใบรับรองที่มีผลตรวจโควิต-19 เป็นลบ (RT-PCR,
True NAAT, Gene Xpert) ภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง
✿ ต้องมีวีซ่า แต่สามารถขอ Visa on ArrivalVOA) ได้
ไอซ์แลนด์
✿ ผู้เดินทางทุกคน
สามารถเข้าประเทศได้โดยไม่จำเป็นต้องลงทะเบียนล่วงหน้าก่อนเดินทาง
และไม่คำนึงถึงสถานะการฉีดวัคซีน
✿ ไม่มีข้อกำหนดสำหรับการทำ
PCR test ก่อนขึ้นเครื่องไปไอซ์แลนด์อีกต่อไป
✿ ไม่มีข้อกำหนดในการแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด-19 อีกต่อไป
✿ ไม่มีการตรวจโควิดหรือกักตัวเมื่อเดินทางมาถึง
เดนมาร์ก
ตอนนี้ไม่มีข้อจำกัดที่เกี่ยวข้องกับโควิด-19 ในการเข้าประเทศเดนมาร์ก
สวีเดน
ไม่มีข้อจำกัดใดๆ เกี่ยวกับโควิด-19 ในการเดินทางไปสวีเดนอีกต่อไป
อินเดีย
✿ ต้องมีวีซ่าท่องเที่ยวหรือ
e-visa ที่ได้รับหลังวันที่ 6 ตุลาคม 2021
✿ นอกจากนี้ยังมีการทดสอบแบบสุ่มกับผู้โดยสารเมื่อลงจอด
ใครก็ตามที่มีผลตรวจโควิดเป็นบวกเมื่อเดินทางมาถึง จะถูกนำตัวไปยังสถานที่กักตัวของรัฐบาล
พร้อมกับผู้ใดก็ตามที่นั่งภายในสามแถวของพวกเขาบนเครื่องบิน
และลูกเรือที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าพวกเขาจะมีผลตรวจเป็นลบหรือไม่ก็ตาม
✿ ก่อนออกเดินทาง
ผู้เดินทางทุกคนที่มีอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไปจะต้องอัปโหลดแบบฟอร์มประกาศตนเองบน
Air Suvidha Portal
✿ ต้องอัปโหลดการตรวจ
RT-PCR test ที่เป็นลบภายใน 72 ชั่วโมงก่อนออกเดินทาง
และจะไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นเครื่องหากยังไม่ได้อัปโหลดเอกสาร
✿ สำหรับผู้โดยสารที่ไม่มีการตรวจ RT-PCR test จะต้องเข้ารับการกักตัวในสถาบันเป็นเวลา 7 วัน โดยออกค่าใช้จ่ายเอง และกักตัวอีก 7 วัน ที่บ้านเมื่อมาถึงอินเดีย
รัสเซีย
✿ ไม่ต้องมีผลการตรวจโควิด-19 ที่เป็นลบก่อนออกเดินทาง (ไม่ต้องทำRT-PCR test)
✿ ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19
✿ ผู้เดินทางต้องกรอกแบบฟอร์มการเดินทางก่อนเดินทางมาถึงรัสเซีย
✿ ผู้เดินทางต้องทำประกันการเดินทางก่อนเริ่มการเดินทาง
โดยไม่คำนึงถึงวัตถุประสงค์ของการมาเยือน
✿ ไม่จำเป็นต้องสวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ
✿ ผู้เดินทางอาจถูกวัดอุณหภูมิและสุ่มเลือกสำหรับการตรวจโควิด-19 ทำ PCR test เพิ่มเติมเมื่อเดินทางมาถึง
✿ ไม่ต้องมีผลการตรวจโควิด-19 ที่เป็นลบก่อนออกเดินทาง (ไม่ต้องทำRT-PCR test)
✿ ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19
✿ แนะนำให้สวมหน้ากากอนามัยในที่สาธารณะ
ดูไบ
ไม่จำเป็นต้องแสดงใบรับรองการฉีดวัคซีนโควิด‑19 หรือทำการตรวจRT- PCR test อีกต่อไป
อิสราเอล
✿ นักท่องเที่ยวทุกคนไม่ว่าจะได้รับวัคซีนหรือไม่ก็ตามสามารถเดินทางไปอิสราเอลได้
✿ ไม่ต้องมีผลการตรวจโควิด-19 ที่เป็นลบก่อนออกเดินทาง (ไม่ต้องทำRT-PCR test)
✿ ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19
✿ ผู้เดินทางต้องทำประกันการเดินทางที่มีความคุ้มครองโควิด-19 ก่อนเดินทางไปอิสราเอล
✿ นักท่องเที่ยวควรสวมหน้ากากอนามัยในสถานที่สาธารณะในร่ม
เกาหลี
✿ ต้องสวมหน้ากากในที่สาธารณะ
✿ ไม่ต้องมีผลการตรวจโควิด-19 ที่เป็นลบก่อนออกเดินทาง (ไม่ต้องทำRT-PCR test)
✿ ไม่จำเป็นต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19
✿ ไม่ต้องทำการกักตัว 7 วัน หลังจากมาถึง
✿ ไม่ต้องทำRT-PCR test หลังจากมาถึงเกาหลี
✿ ก่อนออกเดินทางอย่างเร็วที่สุด 3วัน ควรทำ Q-code เพื่ออัปโหลดประวัติสุขภาพการฉีดวัคซีนและผลตรวจโควิด
✿ ต้องสมัคร K-ETA ให้ผ่านก่อนออกเดินทาง
ฮ่องกง
✿ ไม่ต้องใช้วีซ่า
✿ ผู้เดินทางต้องได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ครบถ้วนแล้ว ส่วนผู้เดินทางที่ยังไม่ได้รับวัคซีนฯ
ครบถ้วนแต่มีถิ่นพำนักในฮ่องกง
สามารถเดินทางเข้าฮ่องกงได้โดยไม่ต้องเข้ารับการกักตัว แต่จะไม่สามารถเข้าไปในสถานที่ที่ทางการฮ่องกงกำหนดให้สแกน vaccine
pass ได้จนกว่าจะได้รับวัคซีนฯ ครบถ้วน
✿ ต้องแสดงผลตรวจหาเชื้อฯ
ด้วย Rapid Antigen Test (RAT) ภายใน 24 ชั่วโมงก่อนกำหนดเวลาเครื่องออก
✿ จำเป็นต้องมีหลักฐานการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ได้รับการรับรองโดยทางการฮ่องกง
✿ ก่อนเดินทางกรอกข้อมูลในแบบฟอร์มออนไลน์
Health Declaration Form ของทางการฮ่องกงที่ https://www.chp.gov.hk/hdf เพื่อให้ได้รับ QR Code สำหรับใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ที่ท่าอากาศยานฮ่องกง
โดย QR Code จะมีอายุ 48 ชั่วโมง
✿ เมื่อเดินทางถึงฮ่องกง
ต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อฯ ด้วยวิธี RT-PCR ที่ท่าอากาศยานนานาชาติฮ่องกง
โดยเมื่อเข้ารับการตรวจหาเชื้อฯ แล้ว ผู้เดินทางสามารถเดินทางไปยังที่พักได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องรอผลตรวจ
✿ ต้องอยู่ภายใต้การสังเกตการณ์ด้านการแพทย์
(medical surveillance) เป็นเวลา 3 วัน โดยในระหว่าง 3 วันดังกล่าวจะไม่สามารถเข้าไปในสถานที่ที่ทางการฮ่องกงกำหนดให้สแกน
vaccine pass ได้
✿ และต้องเข้ารับการตรวจหาเชื้อฯ ด้วยวิธี RT-PCR ที่ศูนย์ตรวจหาเชื้อชุมชนของทางการฮ่องกง
(Community Testing Centre) ในวันที่ 2 (นับวันที่เดินทางถึงฮ่องกงเป็นวันที่ 0)
✿ ในกรณีมีผลตรวจว่าพบเชื้อฯ
ผู้เดินทางจะถูกแยกกักในสถานที่ที่ทางการฮ่องกงกำหนด
หรือถูกส่งตัวไปรักษาในสถานพยาบาล ตามแต่กรณี
✿ วัคซีนที่ยอมรับโดยทางการฮ่องกง:
AstraZeneca, Anhui Zhifei Longcom, Covaxin, Pfizer,
CanSinoBIO, Sputnik V, Vero Cell, Janssen, Moderna, Nuvoxavid, Covishield,
Covovax, Sinopharm และ Sinovac
✿ ต้องดาวน์โหลดแอป Leave Home Safe เพื่อเก็บข้อมูลสถานที่เช็คอิน
✿ ต้องสวมหน้ากากในที่สาธารณะ
✿ ห้ามรวมกลุ่มในที่สาธารณะเกิน 12 คน
ไต้หวัน
ผู้ที่ถือสัญชาติสาธารณรัฐจีน (ไต้หวัน)
สามารถเดินทางจากต่างประเทศกลับเข้าสู่ไต้หวันได้ โดยมีเงื่อนไข 2 ประการ ดังนี้
✿ ต้องแนบเอกสารแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด
– 19 แบบ PCR ภายในเวลา 2 วัน ก่อนออกเดินทาง
✿ ต้องปฏิบัติตามมาตรการยกระดับความเข้มข้นของการป้องกันโรคในการเดินทางเข้าสู่ไต้หวัน
(ตามหมายเหตุข้อ1)
ชาวต่างชาติที่มีความประสงค์จะเดินทางเข้าสู่ไต้หวัน
ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ จึงจะได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสู่ไต้หวัน
ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก:
กลุ่มที่ 1
ผู้ที่ถือบัตรถิ่นที่อยู่ (ARC) ที่ยังมีอายุการใช้งาน
(ไม่รวมวีซ่าพำนักชั่วคราว) สามารถเดินทางเข้าสู่เขตแดนไต้หวันได้ตามเงื่อนไข 2
ประการดังนี้
✿ สามารถเดินทางเข้าสู่ไต้หวันได้โดยไม่ต้องระบุเหตุผล
✿ หากเป็นแรงงานต่างชาติ ต้องแนบใบอนุญาตกลับเข้าไต้หวัน (Re-entry Permit)
กลุ่มที่ 2 ผู้ที่ไม่มีบัตร ARC แต่สอดคล้องกับ
1 ใน 4 คุณสมบัตินี้
✿ กรณีฉุกเฉินหรือตั้งอยู่บนพื้นฐานการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรม
✿ คู่สมรสหรือบุตรที่ไม่ยังบรรลุนิติภาวะของประชาชนชาวไต้หวัน
✿ นักเรียนนักศึกษาที่ได้รับการอนุมัติจากกระทรวงศึกษาธิการ
(ตามหมายเหตุ 4)
✿ คู่สมรสหรือบุตรที่ไม่ยังบรรลุนิติภาวะของชาวต่างชาติที่ถือบัตร
ARC (หมายเหตุ 5)
โดยผู้ที่มีคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้น
สามารถเดินทางเข้าไต้หวันโดยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข 2 ประการ ดังนี้
✿ ก่อนขึ้นเครื่องบิน ต้องแนบเอกสารแสดงผลการตรวจหาเชื้อโควิด - 19 แบบ PCR ที่มีผลเป็นลบ ภายในเวลา 2 วัน ก่อนออกเดินทาง
✿ ต้องปฏิบัติตามมาตรการยกระดับความเข้มข้นของการป้องกันโรคในการเดินทางเข้าสู่ไต้หวัน
(ตามหมายเหตุข้อ1)
สำหรับชาวต่างชาติที่ไม่มีคุณสมบัติดังกล่าวข้างต้น
ไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าสู่ไต้หวัน
ญี่ปุ่น
✿ หากมาเที่ยวญี่ปุ่นไม่เกิน 15 วัน สามารถเดินทางมาได้โดยไม่ต้องขอวีซ่า
( นักท่องเที่ยวไทยได้ฟรีวีซ่า 15 วัน)
✿ หากฉีดวัคซีน 3 เข็ม สามารถใช้ใบรับรองการฉีดจากแอปฯ หมอพร้อมในการลงทะเบียน Visit Japan Wedb ก่อนเดินทางเข้าญี่ปุ่น
※ใช้วัคซีนที่อยู่ที่องค์การอนามัยโลก (WHO) รับรอง (รวม Sinovac และ Sinopharem)
✿ หากไม่ได้ฉีดวัคซีนหรือฉีดไม่ครบ 3 เข็ม ต้องใช้ผลตรวจ RT-PCR เป็นลบในการลงทะเบียน Visit Japan Wed ก่อนเนทางเข้าญ่ปุ่น
※ต้องตรวจภายใน 72 ชั่วโมงก่อนเดินทาง และใช้แบบฟอร์มญี่ปุ่นทางญี่ปุ่นรับรอง
***กฎการเดินทางและข้อบังคับของแต่ละประเทศอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา
ใครอยากเดินทางไปไหน เช็กข้อมูลให้ดีก่อนการเดินทางนะคะ***
ที่มา :
https://th.trip.com/blog/where-can-travel-now/
https://th.taiwantoday.tw/news.php?unit=469&post=213206
https://www.japankakkoii.com/japan-travel/japan-travel-condition/